ReadyPlanet.com
dot dot




แนะนำที่ท่องเที่ยว/Travel Guides
 
สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล
 
จังหวัดสตูล เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทยทางด้านชายฝั่งทะเลอันดามัน คำว่า สตูล มาจากคำภาษามลายูว่า สโตย แปลว่ากระท้อน ซึ่งเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่ขึ้นอยู่ชุกชุมในท้องถิ่น  โดยชื่อเมือง นครสโตยมำบังสการา (มาเลย์: Negeri Setoi Mumbang Segara) นั้นหมายความว่า สตูล เมืองแห่งพระสมุทรเทวา[3]
 
ดังนั้น "ตราพระสมุทรเทวา" จึงกลายเป็นตราสัญลักษณ์ของจังหวัดมาตราบเท่าทุกวันนี้ เมืองสตุลเป็นเมืองที่น่าอยู่และน่าเที่ยว  มีความสงบและธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ประชากรทั้งไทยพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่าสันติสุข
 
จังหวัดสตูลโชคดีที่มีธรรมชาติแวดล้อมด้วยภูเขาและทะเล ด้านทิศใต้มีทิวเขาสันกาลาคีรีกั้นเขตแดนจังหวัดกับประเทศมาเลเซีย  ด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือมีแนวทิวเขานครศรีธรรมราช  เป็นปราการกั้นเมืองเอาไว้  ส่วนทิศตะวันตกมีเส้นชายฝั่งทะเลยาวเหยียด 144.80 กิโลเมตร  มีเกาะจำนวน 105 เกาะ สมญาจังหวัดนี้ว่าเมืองร้อยเกาะก็น่าจะได้  จังหวัดสตูลอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้  ทั้งป่าธรรมชาติละป่าชายเลน มีอุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง ดังนั้น จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย  แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดมีดังต่อไปนี้

 



ผืนป่าพรหมจารีแห่งเมืองสตูล  อุทยานแห่งชาติทะเลบัน
ผืนป่าพรหมจารีแห่งเมืองสตูล  
อุทยานแห่งชาติทะเลบันตั้งอยู่ในหมู่ที่ 4 ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน และพื้นที่ครอบคลุมถึงหมู่ที่ 3 ตำบลปูยู อำเภอเมืองสตูล จึงมีพื้นที่ส่วนที่เป็นภูเขากับส่วนที่เป็นป่าชายเลน ครอบคลุมสองอำเภอ  ที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่ทะเลบัน ตำบลวังประจัน ส่วนที่อำเภอเมืองสตูลมีเฉพาะหน่วยพิทักษ์อุทยาน ตั้งอยู่ที่ท่าเทียบเรือตำมะลัง  อุทยานแห่งชาติทะเลบันได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยาน  เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2523 จัดเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 20 ของประเทศไทย
น้ำตกวังสายทองน้ำตกวังสายทอง.....น้ำตกรูปทรงดอกบัว

น้ำตกวังสายทองตั้งอยู่ในหมู่ที่ 10 ตำบลน้ำผุด  อำเภอเมืองละงู  ห่างจากเขตเทศบาลตำบลกำแพง 28 กิโลเมตร สถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่ใกล้น้ำตกวังสายทอง คือโรงเรียนบ้านวังสายทอง ซึ่งเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษา น้ำตกตั้งอยู่ริมถนนสายทุ่งนางแก้ว-วังสายทอง  ถนนลาดยางตลอด  สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดปี

ถ้ำเจ็ดคตถ้ำเจ็ดคต.....ถ้ำมหัศจรรย์มีลำคลองลอดผ่าน

ถ้ำเจ็ดคต หรือ “ถ้ำสัตคูหา” ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 10  ตำบลน้ำผุด  อำเภอละงู  ด้านทิศเหนือของน้ำตก วังสายทองห่างไปราว  2  กิโลเมตร  ระยะห่างจากเขตเทศบาลตำบลกำแพง  38  กิโลเมตร  เส้นทางไปมาสะดวก  ลาดยางถึงบริเวณถ้ำ  จึงเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอดปี  ถ้ำเจ็ดคตมีความกว้าง 70 – 80 เมตร ยาวประมาณ  600  เมตร  แบ่งออกเป็น  7  ช่วงหรือคูหา  บางช่วงมีความสูงของเพดานถ้ำ 100 – 200 เมตร มีลำคลองไหลผ่านในถ้ำ  คือ คลองมะนัง  ต้นน้ำเกิดจากถ้ำโตน   อยู่ทางเหนือของถ้ำป่าพน  อำเภอมะนัง  คลองมะนังไหลออกปากถ้ำไปบรรจบกับคลองละงู  ซึ่งมีต้นน้ำเกิดจากภูเขาในจังหวัดตรัง

ถ้ำภูผาเพชร ถ้ำภูผาเพชร...... เพชรเม็ดงามที่เจียรนัยแล้ว

ถ้ำภูผาเพชร ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 9 บ้านควนดินดำ ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 27  กิโลเมตร ไปตามถนนที่ลาดยางตลอดสายจนถึงบริเวณถ้ำตั้งอยู่บนเทือกเขาหินปูน ในเขตของทิวเขานครศรีธรรมราช ซึ่งนิยมเรียกว่า  เขาบรรทัด  ปากถ้ำหันไปทางทิศตะวันออก  ทางขึ้นไม่ค่อยลาดชันนัก  ความสูงจากพื้นราบถึงปากถ้ำประมาณ 50 เมตร  ใช้เวลาในการเดินทางจากพื้นราบถึงจุดเข้าถ้ำราว  30  นาที

หมู่เกาะอาดัง-ราวี เกาะไข่ เกาะหินงาม เกาะยาง เกาะดง เกาะลองกวย

หมู่เกาะอาดัง-ราวี เป็นเกาะกลุ่มสุดท้ายของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จึงมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เรือนแถวรับรอง ลานกางเต็นท์ และร้านอาหารที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอุทยานฯ และยังมีชายหาดที่สวยงาม มีป่าไม้ที่สมบูรณ์ มีนกป่านานาชนิด รวมทั้งยังมีปะการังน้ำตื้นซึ่งเหมาะสำหรับการดำน้ำแบบสน๊อกเกิ้ล

เกาะบุโหลน.......หมู่เกาะไม้ไผ่

หมู่เกาะบูโหลนอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา  ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 1  ตำบลปากน้ำ  อำเภอละงู  ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ  8  เกาะ  ได้แก่ เกาะบูโหลนเล  เกาะบูโหลนดอน  เกาะบูโหลนไม้ไผ่  เกาะตงกู  เกาะลามา  เกาะอายำ  เกาะรังนก  และเกาะลูกหิน  บูโหลนเพี้ยนมาจากภาษามลายู “บูโละ”  แปลว่า “ไม้ไผ่”  เนื่องจากบนเกาะอุดมสมบูรณ์ด้วยไม้ไผ่  จึงเรียกชื่อเกาะตามพันธุ์ไม้  มีระยะห่างจากท่าเรือปากบาราประมาณ  22  กิโลเมตร  การเดินทางไปเกาะบูโหลนจึงนิยมเดินทางจากท่าเรือปากบารา

เกาะหลีเป๊ะ เกาะหลีเป๊ะ

หลีเป๊ะเพี้ยนมาจากคำภาษามลายู “นิปิส” แปลว่า “บาง” เป็นชื่อเกาะเล็ก ๆ อยู่ห่างจากเกาะอาดังไปทางทิศใต้ราว 1 กิโลเมตร  มีขนาดเล็กกว่าเกาะอาดังประมาณหนึ่งเท่า  แต่เป็นเกาะที่มีความสำคัญ    เนื่องจากลักษณะของเกาะเป็นที่ราบทั่วไป  ส่วนที่เป็นภูเขามีเพียงเล็กน้อย  เกาะนี้จึงมีผู้คนอาศัยกว่าหนึ่งพันคนเป็นชาวเกาะหรือชาวพื้นเมืองเดิม รู้จักกันในชื่อ “ชาวเล” หรือ “ชาวน้ำ”  นั่นเอง   มีโรงเรียนตั้งอยู่บนเกาะแห่งนี้  เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมปีที่ 3 ชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนบ้านเกาะอาดัง” ชื่อของโรงเรียนจึงไม่สอดคล้องกับชื่อเกาะ

อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ....มรดกแห่งอาเซียนอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ....มรดกแห่งอาเซียน

เมื่อเอ่ยชื่อจังหวัดสตูล ทุกคนต้องรู้จักเกาะตะรุเตา  เนื่องจากเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประวัติศาสตร์  เมื่อสมัย  60  ปีที่แล้ว  เกาะแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่กักกันนักโทษเป็นที่มาของโจรสลัดตะรุเตาที่ อื้อฉาว  ล่วงมาเมื่อวันที่ 20 เมษายน  2517  ได้ประกาศจัดตั้งเป็น “ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา” เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่  8  ถือเป็นอุทยานทางทะเลแห่งแรกและใหญ่ที่สุดของประเทศไทย  ต่อมาองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้อุทยานแห่งชาติตะรุเตาเป็น “มรดกแห่งอาเซียน” ( ASEAN  Heritage  Parks and  Reserves ) เป็นสถานที่ที่ต้องช่วยกันดูแลรักษา  เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกมาศึกษาและเยี่ยมชมตลอดไป

หน้า 1/1
1
[Go to top]